การวาง ระบบน้ำสวนทุเรียน เป็นสิ่งที่เราสมควรใส่ใจอย่างยิ่ง เพราะระบบน้ำที่ดีจะส่งผลทั้ง การเติบโตกับจำนวนของผลผลิต และคุณภาพขอผลผลิตด้วย วันนี้ HD Kaset จะพาไปดู ระบบน้ำสวนทุเรียนกัน ว่าควรใช้ท่อแบบไหน ไปกันเลยคะ
การเลือกท่อให้เหมาะสมกับ งานเกษตร และ ระบบน้ำสวนทุเรียน
ระบบน้ำเพื่อการเกษตร จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอาศัยท่อเมน ซึ่งท่อเมนเป็นท่อที่จ่าย และลำเลียงน้ำไปยัง ท่อย่อย และท่อย่อยก็ลำเลียงน้ำไปยังพืชผักของเราอีกที ท่อเมนยิ่งมีขนาดใหญ่ยิ่งดี แต่ก็จะขึ้นอยู่กับ ขนาดของปั๊มน้ำด้วย ขนาดของปั๊มน้ำ ก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่การเกษตรนั้นๆ ยิ่งมีพื้นที่กว้างและยาว จำเป็นต้องจ่ายน้ำไกล ยิ่งต้องใช้ปั๊มน้ำขนาดใหญ่ ในส่วนของวิธีจ่ายน้ำนั้น ไม่ว่าจะเป็น ระบบหยดน้ำ หรือสปริงเกอร์ ก็ขึ้นอยู่กับพืชผักที่เราปลูกอีกที
ระบบน้ำสวนทุเรียน นั้น ควรที่จะใช้ท่อ PVC เพื่อลำเลียงน้ำ จากตัวปั๊มหลัก เข้าไปสู่ท่อเมน หลักจากนั้นเราก็สามารถลำเลียง น้ำจากท่อเมน ไปสู่ท่อย่อย และหัวฉีดน้ำได้อีกที ตามการออกแบบของสวนทุเรียนของเรา โดยที่ค่าใช้จ่ายเรื่องระบบน้ำในสวนทุเรียนอาจจะมากถึงไร่ละหนึ่งหมื่นบาทเลยทีเดียว
แต่ก่อนอื่นเลย ก่อนที่เราจะลงระบบน้ำในสวนทุเรียน เราต้องออกแบบก่อนว่า เราจะใช้ระบบน้ำนี้ในระยะเวลานานกี่ปี และ เรามีงบประมาณการลงทุนอยู่ที่เท่าไหร่ พอเราวางแผนเรียบร้อยแล้ว กำหนดทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เรามาเริ่มดูการวางระบบท่อสวนทุเรียนกันเลย
ควรใช้ท่อแบบไหน วางระบบน้ำสวนทุเรียน?
หลาย ๆ คนอาจจะแย้งกันว่า ระหว่างท่อ PE กับ ท่อ PVC ควรจะใช้ท่อแบบไหนดี ซึ่งเราก็มีข้อเปรียบเทียบมาให้ทุกคนได้ดูกันคะ
โดยส่วนใหญ่คนที่ทำสวนทุเรียนมานานแล้ว เขาจะนิยมใช้ท่อ PVC กัน เพราะท่อPVCนั้น จะมีคุณสมบัติแข็งแรงทนทาน แต่ท่อPEก็มีคุณสมบัติแข็งแรงทนทานเช่นกัน แต่อายุการใช้งานของท่อPVC จะนานกว่าท่อ PE ซึ่งอายุการใช้งานของท่อ PVC จะสามารถใช้ได้ถึง 20-30 ปีกันเลยทีเดียว นี้ถึงเป็นเหตุผลของชาวสวนทุเรียนที่นิยมใช้ท่อ PVC กัน และในส่วนของเรื่องราคา ก็ตอบได้เลยว่า ราคาต่างกันมากระหว่าง PVCและ PE แต่ถ้าเทียบกับระยะเวลาการใช้งานนั้น ก็บอกได้เลยอีกว่า คุ้มค่ากับการลงทุนมาก
แต่ทุกคนรู้ไหมคะ สิ่งที่จะทำให้อายุการใช้งานของท่อต่ำลงนั้น ก็คือ แรงกดทับ นั้นเองคะ แรงกดทับคืออะไรใช่ไหมคะ แรงกดทับก็คือ การเดินของคนหรือของสัตว์ หรืออาจจะเป็นน้ำหนักของรถที่เข้ามาในพื้นที่สวนทุเรียน เพื่อทำความสะอาดและทำการเก็บผลผลิต ดังนั้นหากเราต้องการใช้งานในระยะเวลานาน เราก็ต้องเลือกท่อที่มีการทนแรงดันได้เยอะนั้นเองคะ
ปัญหาหลักๆเลยก็คือ ต้นทุเรียนนั้นเป็นพืชผลที่ต้องการแสงแดดมากในการเจริญเติบโต แต่ทั้ง ท่อPVC และ ท่อPE ก็ไม่สามารถอยู่กลางแดดได้ตลอดเวลา แต่การแก้ปัญหานี้ของชาวสวนทุเรียนคือ ทาสีท่อให้เป็นสีขาว เพื่อลดการดึงดูดของแสงยูวีและนำท่อไปฝั่งใต้ดินเพื่อป้องกันการโดนแสงแดดนานๆ
การเลือกท่อสำหรับท่อย่อยในสวนทุเรียน
สำหรับท่อย่อยที่ช่วยลำเลียงน้ำไปหาต้นทุเรียน เราสามารถใช้ท่อชั้น 5 ได้ (ท่อ PVC ที่ถูกที่สุดและทนแรงดันน้ำได้ 5 bar) ส่วนสำหรับท่อเมนใหญ่หรือท่อประทานแให้เราเลือกใช้ท่อชั้น 8.5 แทน ถ้าเกิดเป็นงานท่อที่ฝังดินหรือคิดว่าอาจจะโดนแรงกดแรงกระแทกเยอะก็ให้ใช้ท่อชั้น 13.5 แทน ซึ่งก็จะทนทานมากสุดแต่ราคาก็จะแพงขึ้น 20-30% เลย
แต่ในช่วงปัจจุบันนี้ ชาวสวนทุเรียนเริ่มนิยมใช้ท่อ PVC สำหรับการประปามากกว่าท่อเกษตร (ทนแรงดันได้ 5 bar) หรือท่อ PVC สีเทา (ท่อน้ำทิ้ง) สาเหตุก็เพราะว่าอายุการใช้งานของท่อ PVC ประปามีระยะเวลามากกว่านั่นเองคะ
วิธีวางระบบท่อน้ำในสวนทุเรียน
- ท่อเมนใหญ่ ส่วนมากจะเป็นท่อ PVC ประปาขนาด 2” ขึ้นไป โดย ความหนาอาจจะเป็น 8.5 หรือ 13.5 ก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่ามีการกระแทกหรือแรงดันกดท่อเยอะแค่ไหน
- ท่อเมนย่อย คือท่อที่ลำเลียงน้ำจากท่อเมนหลักไปสู่ท่อแยกและหัวสปริงเกอร์อีกที สามารถใช้ขนาด 2” หรือ 1 ½” ก็ได้และถ้าแรงดันน้ำไม่แรงมากก็ใช้ชั้นความดันแค่ชั้น 5 ก็พอ (ถ้าเราลดขนาดท่อจากท่อเมนใหญ่ 2” ไปยังท่อเมนย่อย 1 ½” แรงดันน้ำจะมากขึ้นต้องระวังท่อแตกถ้าเลือกท่อชั้นความดันน้อย)
- ท่อแยกจากท่อย่อย เป็นท่อขนาด 1” และใช้ชั้นความหนาอยู่ที่ ชั้น 5 ก็พอ
- ท่อซอย คือท่อที่ต่อเข้ากับหัว น้ำ (สปริงเกอร์) โดยที่ส่วนมากจะใช้ขนาด ½” เพื่อที่จะให้น้ำได้เพียงพอ เราไม่ควรต่อหัวให้น้ำเกิน 16 หัวต่อท่อหนึ่งแยก
- หัวฉีดน้ำ เวลาวางระบบในสวนทุเรียนควรใช้ระบบสปริงเกอร์หรือมินิสปริงเกอร์ เพราะเราจะมั่นใจได้ว่าทุเรียนทุกต้นได้รับน้ำอย่างพอเพียงและเท่าเทียมกัน เพื่อที่จะกระจายน้ำได้ทั่วถึง และให้เราติดหัวฉีดน้ำห่างจากโคนต้นทุเรียน 1 เมตรและให้เลือกใช้ 1-2 หัวต่อต้น เท่ากับว่าท่อซอย 1 แยกปลูกได้ประมาณ 7-10 ต้นทุเรียนเท่านั้นค่ะ
- แหล่งน้ำ สำหรับต้นทุเรียน 20 ไร่ เราควรจะมีแหล่งน้ำอย่างน้อย 3 ไร่ หากจำนวนไร่มากกว่าหรือน้อยกว่าก็ใช้มาตราส่วนนี้ได้เช่น 10 ไร่ใช้แหล่งน้ำ 1.5-2 ไร่เป็นต้น เรื่องการให้น้ำสำคัญมากยิ่งช่วงเริ่มออกดอกยิ่งสำคัญมากๆเลยคะ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีการวางท่อในสวนทุเรียนอาจจะใช้ต้นทุนที่สูงนิดหนึ่ง แต่ระยะเวลาการใช้งานและบวกกับผลผลิตที่ได้ บอกเลยว่าคุ้มค่ากับการลงทุนแน่นอนคะ
วิธีสังเกตต้นทุเรียน เมื่อขาดสารอาหารหรือขาดน้ำ
- เมื่อขาดน้ำหรือสารอาหารในระยะแรก ต้นทุเรียนจะมีใบที่เหี่ยวเฉา
- สีใบของต้นทุเรียนจะไม่สดในระยะสั้น
- ต้นทุเรียนจะมีการชะงักในการเจริญเติบโตในระยะยาว
การดูแลเรื่องการให้น้ำกับต้นทุเรียน
- เริ่มแรกเลยนะคะ การที่ทุเรียนยังเป็นต้นที่พึ่งปลูกใหม่อยู่ เราแนะนำให้ทำการให้น้ำทุกวัน เป็นเวลาอย่างน้อยเลย คือ 1 เดือน เพื่อให้ต้นทุเรียนนั้นได้รับสารอาหารและน้ำอย่างครบถ้วน และทำให้ลำต้นมีความแข็งแรงเจริญเติบโตได้ดี
- พอเริ่มเป็นทุเรียนที่มีการเจริญเติบโตขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว เราไม่ควรปล่อยให้พื้นดินรอบๆต้นทุเรียนแห้งเกิน 2 วัน และเป็นที่แน่นอนเลยว่า เราก็ต้องปรับ จำนวนหรือปริมาณน้ำตามสภาพอากาศด้วย
- สำหรับทุเรียนที่โตแล้ว หากสภาพอากาศหรือสภาพฝน ปกติ เราก็สามารถให้น้ำทุกๆสองวัน ครั้งละ 30 นาที หรือถ้าอยู่ในช่วงหน้าแล้ง เราต้องให้น้ำต้นทุเรียน แบบวันเว้นวัน ครั้งละ 30 นาทีเช่นกัน
- ช่วงที่ทุเรียนกำลังเติบโตทางใบ ซึ่งเราควรเป็นอย่างยิ่งเลย คือการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ แต่ในช่วงปลายฝน ที่ทุเรียนจะออกดอก เราสามารถ ลดจำนวนปริมาณการให้น้ำได้ ซึ่งในช่วงที่ทุเรียนออกดอกนั้น ถือว่าเป็นช่วงสำคัญมากๆเลยนะคะ เพราะมันจะมีผลต่อการพัฒนาการของต้นทุเรียน
- ช่วงออกดอก เราต้องคุมการให้น้ำอยู่ตลอด เราต้องค่อยๆเพิ่มปริมาณน้ำทีละน้อย และให้เรื่อยๆ ก่อนที่ดอกของทุเรียนจะบาน ใน 1 สัปดาห์ให้เราลดปริมาณการให้น้ำ ให้เหลือแค่ 1/3 ของการให้น้ำแบบปกติ พอดอกบานแล้วและติดผลแล้ว อีก 1 สัปดาห์ เราถึงคอยๆเพิ่มปริมาณการให้น้ำมากขึ้นเรื่อยๆ
แล้วชั้นความหนาของ ท่อ PVC มีเท่าไหร่บ้าง?
คุณภาพชั้นท่อ PVC มีทั้ง ชั้น 5 , ชั้น 7 , ชั้น 8.5 , ชั้น 10.5 และ ชั้น 13.5 ค่ะ ซึ่งชั้น 7 , 10.5 นั้นถือว่าเป็นคุณภาพชั้นใหม่ ที่ทาง scg ผลิตออกมาเมื่อไม่นานมานี้ เพื่อรองรับในการใช้งานที่หลากหลายขึ้น นั่นเองค่ะ
แต่ละคุณภาพชั้น ใช้งานด้านไหนบ้าง?
- ชั้น 5 = รับแรงดันได้ 5 บาร์ (Bar) เหมาะกับใช้ในงาน การเกษตร , ท่อเกษตร หรือท่อทิ้งน้ำทิ้งในอาคาร
- ชั้น 7 และ 10.5 = เหมาะกับใช้ในงาน ระบบประปาภายในบ้าน หรืองานระบายน้ำ
- ชั้น 8.5 = รับแรงดันได้ 8.5 บาร์ (Bar) เหมาะกับใช้ในงาน สุขาภิบาล และการเกษตร
- ชั้น 13.5 = รับแรงดันได้ 13.5 บาร์ (Bar) เหมาะกับใช้ในงาน ท่อที่มีแรงดันสูง น้ำดีภายใน หรือภายนอกอาคาร ส่วนมากจะใช้เป็นท่อหลัก ท่อเมน หรือท่อประธาน
และนอกจากนี้ เรายังมีหัวสปริงเกอร์ที่นิยมใช้กันในงานเกษตรกรรมอีกด้วย จะมีอะไรบ้าง ไปดูพร้อมๆกันเลยคะ
หัวสปริงเกอร์ ที่นิยมใช้งานกันในปัจจุบัน มีอะไรบ้าง?
- สปริงเกอร์น้ำหยด มีอัตราการจ่ายน้ำประมาณ 1-20 ลิตรต่อชั่วโมง ลงทุนต่ำเหมาะกับการปลูกพืชระยะสั้น
- มินิสปริงเกอร์ มีอัตราการจ่ายน้ำประมาณ 20-280 ลิตรต่อชั่วโมง แรงดันอยู่ที่ 1-3บาร์ เหมาะสำหรับรัศมีกระจายน้ำ 1.5-4 เมตร
- มินิสปริงเกอร์แบบมีใบพัด มีอัตราการจ่ายน้ำประมาณ 200-400 ลิตรต่อชั่วโมง สามาระหมุนจ่ายน้ำได้และมีขาปัก เหมาะสำหรับรัศมีกระจายน้ำ 1.5-4 เมตร
- สปริงเกอร์ใบ PVC เรียกอีกชื่อคือสปริกเกอร์หูช้าง สามารถจ่ายน้ำได้ประมาณ 360 ลิตรต่อชั่วโมง แรงดันอยู่ที่ 1.5บาร์ เหมาะสำหรับรัศมีกระจายน้ำ 3-5 เมตร เหมาะสำหรับสวนผลไม้ สวนยางเป็นต้น
เอชดีเกษตร จัดจำหน่ายสินค้าอุปกรณ์งานเกษตร ไม่ว่จะเป็น ท่อldpe ท่อhdpe และอุปกรณ์ ระบบน้ำหยด ระบบสปริงเกอร์ วาล์วเกษตร และข้อต่อต่างๆ เราคัดเลือกแต่สิ่งดีๆ และคุ้มค่า ให้พี่น้องเกษตรกรชาวไทย
มาร่วม…..เป็นครอบครัวเดียวกับเรา HD KASET
#สิงดีๆเพื่อพี่น้องเกษตรกร โทรเลย098-590-9292 , 086-339-1366