มินิสปริงเกอร์ คือ ระบบจ่ายน้ำที่มีอัตราไม่สูงมาก ซึ่งมินิสปริงเกอร์ จะมีหลายประเภทหลายแบบ และยังสามารถแยกออกได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการแยกด้วยประเภท ลักษณะการทำงาน หรือลักษณะการใช้งาน โดยขนาดของมินิสปริงเกอร์จะมีขนาดที่เล็ก แต่มีประสิทธิภาพในการจ่ายน้ำค่อนข้างดี
มินิสปริงเกอร์ มีกี่แบบ ในแต่ละแบบมีลักษณะอย่างไร?
มินิสปริงเกอร์เป็นหัวจ่ายน้ำที่ทำการกระจายน้ำออกมาในรูปของหยดน้ำและละอองเล็กๆ จะมีรัศมีการกระจายน้ำอยู่ที่ประมาณ 1 – 4 เมตร ใช้แรงดันน้ำที่ประมาณ 1.5-2 บาร์ แต่โดยทั่วไปแล้วมินิสปริงเกอร์จะแบ่งออกเป็น 2 แบบ
- มินิสปริงเกอร์ชนิดกระจายน้ำน้อย
- มินิสปริงเกอร์ชนิดกระจายน้ำมาก
มินิสปริงเกอร์ชนิดกระจายน้ำน้อย
มีลักษณะเป็นมินิสปริงเกอร์ที่มีอัตราการจ่ายน้ำจะอยู่ที่ 35-300 ลิตรต่อชม. โดยจะกระจายน้ำจะมีทั้งแบบแคบและแบบไกล มินิสปริงเกอร์รดน้ำชนิดกระจายน้ำน้อย จะเหมาะกับงานรดน้ำใต้ต้นพืช กระจายน้ำในบริเวณพื้นที่ที่ลมไม่แรงและต้องการประหยัดน้ำ
มินิสปริงเกอร์ชนิดกระจายน้ำมาก
เป็นมินิสปริงเกอร์ที่มีอัตราการจ่ายน้ำจะอยู่ที่ 400 -1,000 ลิตรต่อชม โดยสามารถให้น้ำหรือกระจายน้ำได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ให้น้ำแบบพุ่งกระจาย โดยหมุนเป็นเกลียวออก 2 ด้าน ให้ละอองน้ำแบบเม็ดฝอยขนาดใหญ่รอบทิศทาง มินิสปริงเกอร์รดน้ำชนิดกระจายน้ำมาก จะเหมาะกับงานให้น้ำเหนือต้นพืช เพราะว่าให้น้ำที่รวดเร็วและลดปัญหาการอุดตัน แต่ข้อเสียคือจะใช้น้ำในปริมาณมากเช่นกัน
ราคามินิสปริงเกอร์ที่นิยมในปัจจุบัน
มินิสปริงเกอร์SUPER RAIN
เหมาะสำหรับรดน้ำพืชที่ต้องการปริมาณน้ำปานกลาง เช่น พืชสวน ไม้ดอก และแปลงผัก ปริมาณน้ำ 150 ลิตร/ชั่วโมง รัศมีฉีด 2.0 -3.5 เมตร
ชื่อสินค้า | ปริมาณ (ล./ชม.) | รัศมี (ม.) | แรงดัน (บาร์) | ราคา(แพ็ค) | บรรจุ (ชิ้น/แพ็ค) |
SUPER RAIN | 150 | 2-3.5 | 1-3 | 2,500 | 100 |
SUPER RAIN-C | 150 | 2-3.5 | 1-3 | 2,500 | 100 |
SUPER RAIN-P | 150 | 2-3.5 | 1-3 | 2,500 | 100 |
SUPER RAIN-CUP | 150 | 2-3.5 | 1-3 | 600 | 100 |
SUPER RAIN SET | 150 | 2-3.5 | 1-3 | 250 | 1 |
มินิสปริงเกอร์RAINNY series
เหมาะสำหรับรดน้ำพืชที่ต้องการปริมาณน้ำปานกลาง เช่น พืชสวน ไม้ดอก และแปลงผัก มีปริมาณน้ำให้เลือกตั้งแต่ 70 – 200 ลิตร/ชั่วโมง
ชื่อสินค้า | ปริมาณ (ล./ชม.) | รัศมี (ม.) | แรงดัน (บาร์) | ราคา(แพ็ค) | บรรจุ (ชิ้น/แพ็ค) |
RAINNY | 70 | 2-3 | 1-3 | 2,000 | 100 |
110 | 2-4 | 1-3 | 2,000 | 100 | |
150 | 2-4 | 1-3 | 2,000 | 100 | |
200 | 2-5 | 1-3 | 2,000 | 100 | |
RAINNY-C | 70 | 2-3 | 1-3 | 2,000 | 100 |
110 | 2-4 | 1-3 | 2,000 | 100 | |
150 | 2-4 | 1-3 | 2,000 | 100 | |
200 | 2-5 | 1-3 | 2,000 | 100 | |
RAINNY-M | 70 | 2-3 | 1-3 | 1,000 | 100 |
110 | 2-4 | 1-3 | 1,000 | 100 | |
150 | 2-4 | 1-3 | 1,000 | 100 | |
200 | 2-5 | 1-3 | 1,000 | 100 | |
RAINNY SET | 70 | 2-3 | 1-3 | 250 | 1 |
110 | 2-4 | 1-3 | 250 | 1 | |
150 | 2-4 | 1-3 | 250 | 1 | |
200 | 2-5 | 1-3 | 250 | 1 |
**อยากทราบ ราคา มินิสปริงเกอร์ แบบอื่น ๆ สามารถ คลิ๊กดูต่อได้ที่ HD Kaset มีสินค้า และ มีราคาให้คุณ ได้เลือก มากมาย
ข้อควรรู้ก่อนการติดตั้งมินิสปริงเกอร์
- พื้นที่ ในการวางมินิสปริงเกอร์
- ก่อนที่จะเลือกซื้อมินิสปริงเกอร์ สิ่งสำคัญคือ การคำนวณพื้นที่และออกแบบ ระบบน้ำ ที่จะใช้ใน การติดตั้ง เสมอ ว่ามีพื้นที่ทั้งหมดกี่ ตารางเมตร กี่ไร่ ท่อเมน (ท่อหลัก) และ ท่อแยก อยู่ตรงไหน ขนาดเท่าไร เพื่อจะได้คำนวณ จำนวนหัวมินิสปริงเกอร์ ที่ต้องใช้ได้ถูกต้อง
- การใช้งาน หัวมินิสปริงเกอร์
- ควรเลือกหัวให้เหมาะสมกับชนิด ของพืชที่ปลูก และพื้นที่ เพราะหัวมินิสปริงเกอร์แต่ละแบบ มีลักษณะการกระจายน้ำและปริมาณการให้น้ำ ที่แตกต่างกันออกไป
- ขนาดของ ปั๊มน้ำ
- ควรคำนึงถึง กำลังปั๊ม (แรงม้า) และ ขนาดท่อน้ำ เข้า-ออก ที่สามารถจ่าย และส่งน้ำได้ ไกลเพียงพอ กับจำนวนหัวมินิสปริงเกอร์ ที่ติดตั้ง หากปั๊มน้ำมีแรงดัน หรือปริมาณน้ำ ไม่เพียงพอ จะส่งผลให้ ระยะกระจายน้ำ ของหัวมินิสปริงเกอร์ลดลง
ข้อดีของระบบน้ำมินิสปริงเกอร์
- ระบบมินิสปริงเกอร์จะใช้แรงดันน้ำระดับปานกลาง ทำให้ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานน้อยกว่าระบบสปริงเกอร์
- ระบบน้ำมินิสปริงเกอร์เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำจำกัด เพราะใช้ปริมาณน้ำค่อนข้างน้อยกว่าประเภทอื่น
- สามารถใส่ปุ๋ย หรือสารเคมีลงไปในระบบน้ำระหว่างการจ่ายน้ำได้
- เหมาะสำหรับไม้ยืนต้น ที่มีระยะปลูกตั้งแต่ 5 เมตรขึ้นไป
- การสูญเสียน้ำที่ไหลเขตราก หรือไหลตามผิวดินมีน้อย ทำให้ไม่สูญเสียน้ำระหว่างส่งน้ำ
เนื่องจากรู้ข้อดีของระบบน้ำมินิสปริงเกอร์ไปแล้ว เรามาดูข้อเสียกันบ้าง ข้อเสียของมินิสปริงเกอร์นี้ก็คือ รูปล่อยน้ำนั้นมีขนาดที่เล็ก ดังนั้น คุณภาพของน้ำสำคัญมากๆเลย ซึ่งจำเป็นต้องมีระบบกรองน้ำไว้ด้วย เพื่อป้องกัน ไม่ให้เกิดการอุดตันของรูปล่อยน้ำ และต้องล้างกรองอย่างสม่ำเสมอ อีกอย่างหนึ่งก็คือ ถ้าเกิดใบพัดมีปัญหา หรือว่าชำรุด จะไม่สามารถใช้งานได้เลย
แล้วมินิสปริงเกอร์กับสปริงเกอร์ ต่างกันอย่างไร?
การใช้งานของ สปริงเกอร์ และ มินิสปริงเกอร์ ทั้งสองตัวนี้ มีการใช้งานที่ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก เพียงแต่ควรเลือกใช้ ให้เหมาะสมกับ พื้นที่ สวน ไร่ หรือ เหมาะสมกับ หน้างาน เพราะการให้น้ำ ของทั้งสองตัวนี้ มีปริมาณการให้ ที่ไม่เท่ากัน แต่ลักษณะ ของการจ่ายน้ำ ของทั้งสองตัวนี้ จะมีลักษณะ ที่เหมือนกัน คือการจ่ายน้ำแบบปล่อยให้น้ำนั้น ได้กระจ่ายตัวออก เป็นวง เป็นฝอยเล็ก ๆ หรือเรียกว่า ละออง
สปริงเกอร์ คือ การให้ปริมาณน้ำ ปานกลาง ถึง มาก ในพื้นที่ของ สวน ไร่ สามารถให้น้ำในรัศมี ที่มีระยะใกล้ไกล ตามชนิดพืชที่ปลูก โดยมีรัศมีการจ่ายน้ำ อยู่ที่ 4-6 เมตร และมีปริมาณการให้น้ำ 500-900 ลิตร/ชม.
มินิสปริงเกอร์ คือ การให้ปริมาณน้ำน้อย มีรัศมีการจ่ายน้ำไม่มากนัก เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ไม่มาก เช่นไม้พุ่มหรือพืช ที่ต้องการควบคุมปริมาณน้ำ โดยรัศมีการจ่ายน้ำ อยู่ที่ 0.5-4 เมตร และ มีปริมาณการให้น้ำ 80-240 ลิตร/ชม.
ข้อแตกต่างของสปริงเกอร์และมินิสปริงเกอร์
- การจ่ายปริมาณน้ำ ไม่เท่ากัน เนื่องจากตัวของมินิสปริงเกอร์ จะเหมาะสำหรับพื้นที่ สวน ไร่ ที่จำกัดปริมาณน้ำ
- รัศมีการให้น้ำ ไม่เท่ากัน ตัวของสปริงเกอร์ จะมีรัศมีที่กว้างกว่าของตัวมินิสปริงเกอร์
- การใช้แรงดันของแต่ละตัว จะไม่เท่ากัน เนื่องจากตัวของสปริงเกอร์ มีรัศมีการให้น้ำที่กว้างกว่า จึงต้องใช้แรงดันที่เพียงพอ ต่อการกระจ่ายน้ำ
- ตัวมินิสปริงเกอร์ จะมีรูปล่อยน้ำ ที่ขนาดเล็กกว่าตัวสปริงเกอร์
Cr.HD Pipethai
สามารถสั่งซื้อมินิสปริงเกอร์ได้ที่ไหน
สามารถ คลิกลงตะกร้า จากเว็บไซต์เราได้เลยน้าาา นี่เลยค่ะ เอชดีเกษตร จัดจำหน่ายสินค้าอุปกรณ์งานเกษตร ไม่ว่จะเป็น ท่อldpe ท่อhdpe และอุปกรณ์ ระบบน้ำหยด ระบบสปริงเกอร์ วาล์วเกษตร และข้อต่อต่างๆ เราคัดเลือกแต่สิ่งดีๆ และคุ้มค่า ให้พี่น้องเกษตรกรชาวไทย
มาร่วม…..เป็นครอบครัวเดียวกับเรา HD KASET
#สิ่งดีๆเพื่อพี่น้องเกษตรกร โทรเลย098-590-9292 , 086-339-1366