สำหรับเหล่าเกษตรกรยุคใหม่ เราอยากแนะนำอุปกรณ์สำหรับการรดน้ำต้นไม้อย่าง “สปริงเกอร์ใบบัว” นี่เป็นอุปกรณ์ชิ้นเล็ก ๆ ที่ถูกนำมาใช้งานด้านการเกษตรอย่างกว้างขวาง เป็นสปริงเกอร์ที่เหมาะสมกับคำว่า “จิ๋วแต่แจ๋ว” เป็นที่สุด สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยรู้จักกับสปริงเกอร์ชนิดนี้ บทความนี้เราจะมาแนะนำให้คุณได้รู้จักกับการใช้งาน ไปจนถึงประโยชน์ของสปริงเกอร์ชนิดนี้ให้มากขึ้น ถ้าพร้อมแล้วไปชมกันเลย !
สปริงเกอร์ใบบัว คืออะไร ?
ก่อนอื่นต้องรู้จักกับสปริงเกอร์ใบบัวกันเสียก่อน นี่คืออีกหนึ่งชนิดของ “Mini Sprinklers” เป็นสปริงเกอร์ขนาดเล็กที่นิยมใช้งานอันดับต้น ๆ ในประเทศไทย สาเหตุที่ถูกเรียกว่า “สปริงเกอร์ใบบัว” เกิดมาจากการที่น้ำที่ถูกพ่นออกมา จะกระจายเป็นวงกลม 360 องศา ซึ่งมีลักษณะเหมือนใบบัวขนาดใหญ่ รูปทรงของสปริงเกอร์นั้นก็เรียบง่ายมาก ๆ มักจะเป็นสปริงเกอร์ที่มีเกลียวนอก วัสดุพบได้ส่วนมากจะเป็นพลาสติกแต่มีจุกทองเหลือง สามารถปรับรัศมีของน้ำได้ตามความต้องการ
สปริงเกอร์ใบบัวเหมาะกับการใช้งานอย่างไร ?
- ใช้สำหรับการรดน้ำต้นไม้แบบทั่วถึง 360 องศา โดยส่วนมากแล้วจะมีรัศมีของน้ำอยู่ที่ประมาณ 3-5 เมตร ขึ้นอยู่กับขนาด และ แรงดันน้ำของพื้นที่
- เป็นสปริงเกอร์ที่ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้ในสวนผัก สวนดอกไม้ สนามหญ้า ไปจนถึงพืชขนาดใหญ่ก็อย่างสวนทุเรียนก็ใช้ได้ เพราะการติดตั้งที่เรียบง่าย ปรับใช้ได้ในหลาย ๆ สถานการณ์
- เหมาะกับการใช้งานที่ไม่อยากลงทุนกับงบประมาณในด้านการใช้งานสปริงเกอร์มากนัก เนื่องจากสปริงเกอร์ใบบัวมีราคาถูก แต่กลับมีความคงทนเป็นอย่างมาก หากเกิดการอุดตัน ก็สามารถแก้ไขได้โดยง่าย
ข้อควรระวังของการใช้งานสปริงเกอร์ใบบัว
แม้ประโยชน์ของสปริงเกอร์ใบบัวจะมีหลายต่อหลายข้อ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสปริงเกอร์ชนิดนี้จะเหมาะสมกับการใช้งานทุกรูปแบบ เนื่องจากคุณสมบัติที่ปล่อยน้ำออกมาเป็นจำนวนมากในวงกว้าง จึงเหมาะสำหรับพืชที่ต้องการน้ำมาก ชื่นชอบความชุ่มชื้น อย่างเช่น ผักที่ใช้การปักชำ ต้นกล้าของผัก ไปจนถึงสนามหญ้า สำหรับข้อควรระวังของการใช้สปริงเกอร์ชนิดนี้ ก็จะมีดังต่อไปนี้
· สปริงเกอร์ใบบัวไม่เหมาะกับพืชที่ไม่ชอบความชุ่มชื้น
ไม่ควรใช้สปริงเกอร์ใบบัวกับพืชที่ไม่ชอบความชื้นเป็นอันขาด เพราะอาจทำให้เกิดโรคกับพืชได้ ยกตัวอย่างเช่น ต้นมะเขือเทศ ซึ่งเป็นพืชที่ไม่ควรให้ใบเปียกเป็นอันขาด เนื่องจากจะเกิดโรคเชื้อราน้ำค้างบริเวณใบ ทำให้พืชเกิดความเสียหายได้ เป็นต้น
· การใช้สปริงเกอร์ใบบัวค่อนข้างสิ้นเปลืองน้ำพอสมควร
จากลักษณะน้ำที่สปริงเกอร์ใบบัวปล่อยออกมา จะมีลักษณะกระจายเป็นวงกว้าง ทำให้จำเป็นต้องใช้ปริมาณน้ำเยอะเป็นพิเศษ ดังนั้นการเปิดใช้งานควรมีการจำกัดระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อเป็นการประหยัดน้ำที่อาจเสียเปล่า และเพื่อป้องกันไม่ให้ต้นไม้เกิดอาการรากเน่า จากการให้น้ำที่มากเกินไปนั่นเอง
ทำไมควรเลือกใช้สปริงเกอร์ ใบบัว
- ให้น้ำปริมาณปานกลาง จำพวกพืชสวน พืชผัก และต้นกล้า สามรารถปรับรัศมีการกระจายน้ำได้
- ทนทานกว่าสปริงเกอร์อื่น ๆ เนื่องจากผลิตจากพลาสติกคุณภาพดีและทองเหลือง
- น้ำกระจายตัวออกมา 360 องศา สามารถจ่ายน้ำได้เยอะเพราะไม่มีใบพัด และไม่ชำรุดง่ายเหมือนตัวที่มีใบพัดอีกด้วย
- ทำความสะอาดง่าย สามารถถอดหัวเพื่อล้างได้
ข้อแนะนำ : หมุนขึ้น = น้ำจะขึ้นสูงรัศมีจะน้อย / หมุนลง=น้ำจะขยายรัศมีได้ไกล
ข้อดี และ ข้อเสีย
ข้อดี
- สำหรับพื้นที่ ที่ปริมาณน้ำจำกัด เพราะใช้ปริมาณน้ำค่อนข้าง น้อยกว่าประเภทอื่น
- ใช้แรงดันน้ำระดับปานกลาง ทำให้ใช้เครื่องสูบน้ำ และค่าใช้จ่ายด้านพลังงานน้อย
- เหมาะสำหรับไม้ยืนต้น ที่มีระยะปลูกตั้งแต่ 5 เมตรขึ้นไป
- สามารถใส่ปุ๋ย หรือสารเคมีลงไปในระบบน้ำระหว่างการจ่ายน้ำได้
ข้อเสีย
- รูปล่อยน้ำมีขนาดเล็ก คุณภาพน้ำที่ใช้ต้องค่อนข้างดีและมีระบบกรองน้ำ เพื่อไม่ให้เกิดการอุดตัน และต้องล้างกรองอย่างสม่ำเสมอ
- ถ้าใบพัดชำรุด จะทำให้ใช้งานไม่ได้
สปริงเกอร์ใบบัว ติดตั้งง่าย สะดวกต่อการใช้งาน
เมื่อติดตั้ง ควรหมุนสปริงเกอร์ใบบัวเข้ากับข้อต่อเกลียวในให้ชนกับลูกยางกันซึมที่มีอยู่แล้ว แนะนำให้หมุนจนสุดเกลียวของหัวทองเหลืองจะทำให้มีรัศมีที่พอเหมาะต่อการกระจายน้ำ
การติดตั้ง สามารถเลือกติดตั้งได้หลายแบบเช่นกัน ในแต่ละแบบก็จะมีความแตกต่างกันไป ตามความต้องการ หรือความเหมาะสม โดยจะมีแบบ ดังนี้
- แบบเสียบท่อ PE
- แบบเกลียวใน 1/2″
- แบบฝาครอบ PVC 1/2″
- แบบเสียบท่อ PE+วาล์ว
- แบบขาปัก+วาล์ว+สายไมโคร 60 เซนติเมตร
หลักการทำงานสปริงเกอร์ใบบัว
สำหรับสปริงเกอร์ใบบัว จะมีความคงทนกว่าหัวสปริงเกอร์ทั่ว ๆ เนื่องจากหลักการทำงานของจุกทองเหลือง น้ำจะฉีดขึ้นมากระแทกกับตัวทองเหลืองด้านบนที่มีลักษณะแบนเป็นจานเล็ก ๆ จึงทำให้เกิดการกระจายของน้ำมีลักษณะเหมือนใบบัว เราจึงเรียกสปริงเกอร์นี้ว่า ใบบัว นั่นเอง แดดและฝนจะไม่ส่งผลกระทบกับจุกทองเหลืองมากนัก หากเป็นพลาสติกอาจเกิดการแตกหักได้ง่ายกว่าทองเหลือง
ระบบสปริงเกอร์
เหมาะกับการใช้งานสปริงเกอร์ และใช้ร่วมกับปั๊มจุ่มขนาด 1 นิ้ว ที่ให้รัศมีน้ำ 1.5 เมตร ขึ้นอยู่กับความแรงของปั๊มน้ำ ยิ่งปั๊มมีความแรงมากเท่าไหร่ การกระจายน้ำก็ยิ่งแรงมากขึ้นหรืออาจจะเปิดพร้อมกันได้หลายตัว แต่ชาวเกษตรกรนิยมใช้งานสปริงเกอร์ใบบัว 1 ตัวต่อ 1 ต้น โดยอาศัยการหรี่น้ำ หรือขึ้นอยู่กับการประยุกต์ใช้ของแต่ละคน
บทส่งท้าย
แม้ว่าสปริงเกอร์ใบบัวจะได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในเกษตรกรชาวไทย แต่ก็ต้องระมัดระวังในการใช้งาน ควรเลือกชนิดของสปริงเกอร์ให้เหมาะสมกับความต้องการของพืชชนิดนั้น ๆ สำหรับผู้ที่อยากได้สปริงเกอร์ แต่ยังเลือกไม่ได้ว่าจะซื้อชนิดไหนดี สามารถสอบถามเราได้ตลอดเวลาทำการ เรามีสปริงเกอร์หลากหลายรูปแบบให้คุณเลือกซื้อ พร้อมจัดส่งสินค้าถึงบ้านคุณ รับประกันว่าสินค้าคุณภาพดีทุกชิ้น จำหน่ายในราคามิตรภาพ
สั่งซื้อได้ที่ไหนบ้าง
ขั้นตอน การสั่งซื้อสปริงเกอร์ใบบัว และอุปกรณ์การเกษตร
- โทร.063-686-2900 / 083-992-5999 หรือ @ Line : @hdpipethai พร้อมแจ้งความต้องการใช้ข้อต่อตรง ท่อ ขนาด และจำนวนการใช้ พร้อมสถานที่จัดส่ง
- พนักงานขายเสนอราคา ให้คำปรึกษาการใช้งาน พร้อมลูกค้าสามารถชำระเงิน เข้าบัญชีบริษัทฯ
- ลูกค้ารอรับสินค้า เพื่อใช้งานตามเวลาที่กำหนด
สามารถ คลิกลงตะกร้า จากเว็บไซต์ มีจัดจำหน่ายสินค้าอุปกรณ์งานเกษตร ไม่ว่าจะเป็นชุดสปริงเกอร์, กรองเกษตร, ปั๊มน้ำ, ท่อ pvc และข้อต่อต่างๆ เราคัดเลือกแต่สิ่งดีๆ และคุ้มค่า ให้พี่น้องเกษตรกรชาวไท